Asakusa.Ueno.Skytree

Asakusa Sensoji

Senso-ji เป็นวัดที่สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ.628 ซึ่งมีอายุเก่าแก่ที่สุดในกรุงโตเกียว เป็นสถานที่ที่มีชื่อเสียงสำหรับนักท่องเที่ยว โดยในแต่ละปี จะมีนักท่องเที่ยวทั้งคนญี่ปุ่นและต่างชาติมาเที่ยวประมาณ 30 ล้านคน อีกทั้งยังเคยเป็นศูนย์กลางในสมัยเอโดะ

【KAMINARI MON】(正式名:風神雷神門)

asakusa016

ประตู Kaminari mon มีรูปปั้นของ 2 เทวบาล โดยฝั่งขวามือเป็น Fuujin คือเทพเจ้าแห่งสายลม และทางซ้ายมือเป็น Raijin คือเทพเจ้าแห่งสายฟ้า ซึ่งมีโคมยักษ์สีแดงเรียกว่า Chouchin มีความสูง 3.9 เมตร เส้นผ่านศูนย์กลาง 3.3 เมตร หนัก 700 กิโลกรัม และเป็นสัญลักษณ์ของประเทศญี่ปุ่น นิยมใช้รูปถ่ายทำเป็นแผ่นพับหรือโฆษณาการท่องเที่ยว อีกทั้งยังเป็นจุดที่นักท่องเที่ยวนิยมถ่ายรูปกันเป็นอย่างมาก และนิยมมาเที่ยวกันในช่วงเช้า

【NAKAMISE】
asakusa002

เมื่อ 300 ปีที่แล้ว ในสมัยเอโดะ รัฐบาลได้ให้ประชาชนทำงานโดยให้ทำความสะอาดบริเวณวัด ดังนั้น รัฐบาลจึงได้มอบพื้นที่สำหรับค้าขายให้ประชาชนเหล่านั้น จึงถือได้ว่า Nakamise เป็นถนนชอปปิ้งที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่น
จาก Kaminari mon ถึง Hondou ซึ่งเป็นอาคารหลัก เป็นระยะทาง 250 เมตร โดยทั้ง 2 ข้างทางจะมีร้านค้าขายของที่ระลึกตลอดทางเดิน แบ่งเป็นฝั่งตะวันออกประกอบไปด้วยร้านค้า 54 ร้าน และฝั่งตะวันตก 35 ร้าน

Official website Nakamise:http://asakusa-nakamise.jp/e-index.html

asakusa051

ภาพถ่ายเมื่อมองจาก Asakusa Bunka Kanko Center แสดงถึงเส้นทางจาก Kaminari mon ถึง Hondou โดยมีร้านค้าตลอดทั้งสองข้างทางที่เห็นเป็นหลังคาสีเขียว

 
【HOZOMON】

SONY DSC

เมื่อเดินผ่าน Nakamise จะพบกับ Hozomon เมื่อเข้าไปจะเจอกับ Temizuya เป็นบ่อที่ชำระล้างร่างกายก่อนเข้าไปกราบไหว้ภายในวัด

【HONDO】

asakusa003เมื่อขึ้นบันไดจะพบกับวัด (รายละเอียดด้านล่าง)

 
【JINRIKISHA】

浅草寺雷門 2014/05/03

เมื่อมาที่ Senso-ji จะประหลาดใจเมื่อพบกับรถสามล้อ เรียกว่า Jinrikisha (jin=คน , riki=พลัง , sha=รถ) รออยู่ข้างหน้า Kaminari mon ซึ่งใช้ในสมัยเมจิถึงช่วงคริสต์ทศวรรษ 1930 แต่ในปัจจุบัน ใช้เพื่อการท่องเที่ยวและพาทัวร์ในย่าน Asakusa ซึ่งในย่าน Asakusa มีบริษัทนำเที่ยวอยู่หลายบริษัท

■ ข้อมูลทั่วไป
・ชื่อบริษัท:Asakusa Ebisuya*มีเจ้าหน้าที่พูดภาษาอังกฤษได้

・ที่อยู่ : 3F East Building  1-20-4  Asakusa  Taito-ku  Tokyo 111-0032 

・วิธีการเดินทาง :อยู่ที่ด้านหน้า Sensoji Kaminarimon 

・เวลาเปิดปิด :9:30 น. จนถึงพระอาทิตย์ตก (ขึ้นอยู่กับฤดู)

・Tel :03-3847-4443

・ราคา: http://ebisuya.com/en/service/index.html

・Official Website :http://ebisuya.com/en/index.html

อื่น ๆ 

Asakusa Jidaiya :http://www.jidaiya.biz/

Kosugiya :http://kosugiya.biz/index.html

Exif_JPEG_PICTURE

浅草文化観光センター

【Asakusa Culture Tourist Information Center】 ตั้งอยู่ด้านหน้า Sensoji Kaminarimon อาคารนี้สูงทั้งหมด 8 ชั้น และมีชั้นใต้ดิน 1 ชั้น ซึ่งในตัวอาคารประกอบไปด้วย Information Counter, Money exchange, Travel group support, Cafe,View Terrace

asakusa0191F: Information Counter (ภาษาอังกฤษ, จีน, เกาหลี) ,Money exchange

2F: Tourist information section (นิตยสาร/คอมพิวเตอร์/Wi-Fi ให้บริการฟรี)

8F: View Terrace (ฟรี)

แนะนำว่าให้ไปที่ชั้น 8 ซึ่งสามารถมองเห็นวิวทั้งหมดใน Asakusa

■ ข้อมูลพื้นฐาน

・ชื่อ : Asakusa Culture Tourist Information Center

・ที่อยู่ : 9-18  2-chome Kaminarimon Taito-ku  Tokyo

・วิธีการเดินทาง : อยู่ด้านหน้า Sensoji

・เวลาเปิดปิด : 9.00 น. – 20.00 น.

・วันหยุด : ไม่มีวันปิดทำการ

・Tel :03-3842-5566

・ค่าเข้า:ฟรี

・Official Website :http://www.city.taito.lg.jp/index/bunka_kanko/kankocenter/a-tic-gaiyo.html

・โบรชัวร์ :http://www.city.taito.lg.jp/index/bunka_kanko/kankocenter/a-tic-gaiyo.files/eigo.pdf

【Sensoji ในตอนกลางคืน】

asakusa012

รูปภาพด้านบนแสดงให้เห็นถึงแสงไฟที่ Sensoji ด้านซ้ายคือ Hozomon, ด้านขวา คือ Gojuunotou (เจดีย์ 5 ชั้น)

ในตอนกลางวันมีผู้คนพลุกพล่าน แต่ในตอนกลางคืนไม่มีผู้คน จึงเงียบ เนื่องจากร้าน Nakamise ปิดประมาณ 18.00 น.

ในตอนกลางคืนคนน้อย และมีบรรยากาศเงียบ อีกทั้งมีไฟส่อง ทำให้มีบรรยากาศสวย จึงแนะนำให้ไปดูในตอนกลางคืน

【Sensoji Hondo ในตอนกลางคืน】

asakusa014

【Sensoji Hondo กับ Skytree】

asakusa050

Sensoji Hondo, Hozomon และ Gojunotou จะมีการเปิดไฟในตอนกลางคืน ทำให้มองเห็นรูปร่างชัดเจน ซึ่งเป็นบรรยากาศสวยงามมาก

ไฟจะปิดตอน 23.00 น.  ดังนั้น อยากเชิญชวนให้มาชมบรรยากาศในตอนกลางคืนซึ่งแตกต่างจากตอนกลางวัน

Hondo, Omikuji, Nakamise ปิดในตอนเย็น แต่สามารถเข้าไปในวัด Sensoji ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

จาก Kaminarimon ผ่านไปยัง Nakamise จนกระทั่งถึง Hondo สามารถดูได้จากวีดีโอนี้

■ ข้อมูลพื้นฐาน

・ชื่อ :Sensoji

・ที่อยู่ : 3-1  2chome Asakusa  Taito-ku  Tokyo 111-0032

・วิธีการเดินทาง : ใช้เวลาเดินทาง 5 นาที จากสถานีรถไฟ Asakusa (สาย Tokyo Metro Ginza) , 7 นาทีจากสถานีรถไฟ Asakusa ทางออก A4 (สาย Toei Asakusa), 5 นาที จากสถานีรถไฟ Asakusa (สาย Toubu  Isezaki), 5 นาที จากสถานีรถไฟ Asakusa (สาย Tsukuba Express)

・วันหยุด : ไม่มีวันปิดทำการ

・Official Website :http://www.senso-ji.jp/

・แผนที่สำหรับท่องเที่ยวใน Asakusa (PDF file) :http://www.asakusa-nakamise.jp/download/pdf/2008_02.pdf

วิธีการสวดมนต์อธิษฐาน

ต่อไปนี้เป็นวิธีการสวดมนต์อธิษฐานต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในวัด (Senso-ji ถือว่าเป็นวัด) ซึ่งวิธีการจะแตกต่างจากศาลเจ้า

วิธัการสวดมนต์อธิษฐานในศาลเจ้า ดูรายละเอียดได้ที่นี่รายละเอียดที่นี่

1)วิธีการชำระล้างร่ายกายที่ Temizuya(ชำระล้างมือกับปาก)

asakusa038

a)ใช้มือขวาจับกระบอกสำหรับตักน้ำเพื่อชำระล้างมือซ้าย ล้างโดยยังคงเหลือน้ำในกระบอก

b)จับกระบอกโดยใช้มือซ้าย เพื่อชำระล้างมือขวา

c)ใช้มือขวาจับกระบอกอีกครั้ง แล้วเทน้ำใส่มือซ้าย เพื่อชำระล้างปาก แล้วบ้วนทิ้ง

ห้ามใช้กระบอกสัมผัสกับปากโดยตรงเป็นอันขาด!!

เวลาบ้วนน้ำทิ้งให้บ้วนทิ้งอย่างสุภาพไม่มีเสียงและไม่ให้คนอื่นเห็น โดยใช้มือปิดบังปากเวลาบ้วนน้ำทิ้ง

d)เปลี่ยนมาใช้มือซ้ายจับกระบอกน้ำอีกครั้ง แล้วกระดกกระบอกน้ำ ให้น้ำที่เหลือไหลผ่านด้ามกระบอกเพื่อทำความสะอาดด้าม แล้วจึงคว่ำกระบอกน้ำเก็บเข้าที่ให้เหมือนเดิม

วิธีการไม่เหมือนในประเทศไทย ดังนั้น เข้าเมืองตาหลิ่ว ต้องหลิ่วตาตาม

 

2)วิธีการจุดธูป

sensoji003

ธูปเป็นเครื่องสักการะบูชาที่สำคัญสำหรับการบูชาพระ กลิ่นหอมของควันธูปนำพาความโชคดีให้กับผู้ที่สัมผัส

เมื่อจุดธูป ควรจุดด้วยเทียนของตนเอง ไม่ควรจุดจากเทียนของผู้อื่น เพราะถือว่าอาจนำพากรรมของผู้นั้นเข้าสู่ตนเอง เมื่อจุดธูปไม่ควรเป่าให้ธูปดับ เพราะถือว่าบาป แต่ให้ใช้มือโบกพัดให้ธูปดับแทน

3)วิธีการสวดมนต์อธิษฐาน

asakusa053

(a)ทำความเคารพด้านหน้า Saisenbako (ตู้รับบริจาค)โดยก้มหน้าประมาณ 45 องศา

(b)ค่อย ๆ ใส่สตางค์ในตู้รับบริจาค โดยไม่ต้องโยน

(c)พนมมือไหว้ในระดับหน้าอก

(d)ทำความเคารพโดยก้มหัวอีกครั้งหนึ่ง

※เนื่องจากเป็นวัด ไม่ใช่ศาลเจ้า จึงไม่ต้องทำความเคารพโดยปรบมือ 2 ครั้ง

Omikuji (การเสี่ยงเซียมซี)

「ว้าววว!จับได้ใบที่ดีที่สุด (Daikichi)!ปีนี้ต้องโชคดีที่สุดแน่เลย」
「ว้าาา ได้ใบที่แย่ที่สุด (Daikyou)!ทำยังไงดีนะ??」

การเสี่ยงเซียมซีในภาษาญี่ปุ่น เรียกว่า Omikuji

ต่อไปจะเป็นการอธิบายเกี่ยวกับการเสี่ยงเซียมซี หรือที่เรียกในภาษาญี่ปุ่นว่า Omikuji

Omikuji เป็นข้อความที่มาจากวัดหรือศาลเจ้า ทำนายอนาคตของผู้คนว่าจะเป็นอย่างไร

omikuji002

Omikuji ประกอบไปด้วยการทำนายโชคชะตา การเงิน ธุรกิจ ความรัก เนื้อคู่ ของหาย การเดินทาง สุขภาพ การเรียน การแต่งงาน มีระบุอยู่ในใบเซียมซี

ทุกคนจะดีใจ ถ้าจับได้ใบที่ดีที่สุดคือ Daikichi แต่จุดประสงค์ที่แท้จริงของ Omikuji ไม่เพียงแต่บอกว่าจะโชคดีหรือโชคไม่ดี แต่เป็นคำใบ้สำหรับวางแผนการในอนาคตว่าจะต้องทำอย่างไร

เมื่อจับใบเซียมซี บางคนอาจนำกลับบ้าน หรือพับเก็บเสียบไว้ที่ต้นไม้ในวัด ถ้าเกิดใบนั้นเป็นใบที่ไม่ดี เมื่อได้ใบที่ไม่ดีแล้ว เป็นเหมือนคำเตือนให้เราระวังตัว คิดดี ทำดี โชคร้ายอาจกลายเป็นโชคดีได้

 

Omikuji จะจับหลังจากทำบุญสวดมนต์อธิษฐานแล้ว และก่อนจับให้อธิษฐานขอพรก่อน

asakusa001ถ้าเกิดจับได้ใบที่ไม่ดี คือ Kyo หรือ Daikyo ไม่ควรจับใหม่อีกครั้ง แต่ให้เก็บไว้ที่ต้นไม้ในวัด เพราะเชื่อว่าต้นไม้มีพลังชีวิต ทำให้สิ่งที่เราอธิษฐานเป็นจริงได้ และการใช้มือข้างที่ไม่ถนัดในการผูกใบ Omikuji กับต้นไม้ เชื่อว่าจะทำให้สิ่งที่ไม่ดีกลายเป็นดี

 

 

 

 

 

omikuji011

【วิธีการจับใบ Omikuji】จ่ายเงิน 100 เยน (ประมาณ 30 บาท) จากรูปด้านซ้ายมือ จะเห็นกล่องเซียมซี ซึ่งทำการเสี่ยงเซียมซีโดยการเขย่ากล่องเซียมซี แล้วพลิกกล่องคว่ำลง เซียมซีจะออกมาจากรู จะปรากฎหมายเลขเซียมซี จากนั้น จึงหาใบเซียมซีตามหมายเลขที่เราได้

omikuji003

เทศกาล Asakusa (Sanja Festival)

Sanja matsuri เป็นเทศกาล Asakusa Shrine ซึ่งเป็นเทศกาลเก่าแก่ที่มีอายุมากกว่า 700 ปี โดยจัดขึ้นเป็นประจำทุกปีในวันศุกร์ เสาร์ และอาทิตย์ ที่ 3 ของเดือนพฤษภาคม ซึ่งมีผู้คนมาชมเทศกาลนี้กว่า 1.5ล้านคน และในปีหน้า คือปีค.ศ.2016 จะจัดขึ้นในวันที่ 20, 21, 22 ของเดือนพฤษภาคม

【จุดกำเนิดของ Sanja matsuri】คนญี่ปุ่นโดยทั่วไปรู้จักวัด Sensoji แต่น้อยคนที่จะรู้จัก Asakusa Shrine (ศาลเจ้า Asakusa) เมื่อนานมาแล้ว ที่แม่น้ำชื่อ Sumidagawa มีผู้ชายจับปลาสามคน ทอดแหตาข่ายจับปลาไปติดเจ้าแม่กวนอิม (Kannon) จึงได้นำไปบูชา เกิดความเลื่อมใส จึงอุทิศตนอยู่ในศาลเจ้า  เทศกาล Sanja matsuri จึงเสมือนเป็นการระลึกถึงชายสามคนนั้น เริ่มมีมาตั้งแต่ ค.ศ.1312 

Asakusa Shrine ตั้งอยู่ใน Sensoji และตั้งอยู่ด้านขวามือของ Hondo

asakusajinjya002

■ ข้อมูลพื้นฐาน

・ชื่อ :Asakusa Jinjya (Asakusa Shrine)

・ที่อยู่ :2-3-1 Asakusa Taito-ku  Tokyo 111-0032 

・วิธีการเดินทาง :เช่นเดียวกันกับ Sensoji

・Tel :03-3844-1575

・Official Website :http://www.asakusajinja.jp/english/  

เมื่อพูดถึงเทศกาล  Sanja matsuri ก็จะนึกถึง Mikoshi (เกี้ยวหรือศาลเจ้าจำลอง) เป็นพาหนะเมื่อเทพเจ้าออกเดินทางจากศาล ผู้ที่อาศัยอยู่ใกล้ศาลและเลื่อมใสในเทพเจ้า เรียกว่า Ujiko ซึ่งเป็นผู้ที่แบกหามเกี้ยวในเทศกาล Sanja matsuri ผ่านไปในละแวกข้างเคียง เพื่ออัพเชิญเทพเจ้าได้เดินทางดูสถานที่ในละแวกนั้น ๆ ตลอดข้างทางมีผู้เข้าชมขบวนแห่มากมาย เพราะเชื่อว่า จะนำโชคลาภ ความสุข ความเจริญมาให้

มีความเชื่อว่าถ้าหากเกี้ยวโยกไปมา จะทำให้เทพเจ้ามีพลังอำนาจมากยิ่งขึ้น ส่งผลให้ผลผลิตข้าวเก็บเกี่ยวได้มากขึ้นและสามารถจับปลาได้มากขึ้น รวมทั้งไม่มีโรคภัยไข้เจ็บ

เนื่องจากมีเทพเจ้า 3 องค์จึงมี Mikoshi สำหรับแห่เทพเจ้า 3 หลัง แต่เมื่อรวมกับ Mikoshi ของผู้ที่อาศัยในละแวกใกล้เคียงกันแล้ว รวม ๆ ประมาณ 100 หลัง

ชุดสำหรับสวมในงาน Sanja matsuri เรียกว่า Happi ด้านหลังเสื้อมีตัวอักษรคันจิหลายหลาก แต่ส่วนใหญ่แล้วจะเขียนว่า 祭 (Matsuri=เทศกาล)

สำหรับกางเกงที่ใส่เป็นกางเกงในแบบเก่าแก่ของญี่ปุ่น เรียกว่า Fundoshi เหมือนว่าที่ญี่ปุ่นมี G-String มานานแล้ว!!

asakusa056

 

Hoppy Street ถนนฮอปปี้ (ฮอปปี้-โดริ)

305

ที่บริเวณใกล้ๆ กับวัดเซ็นโซของอาซาคุสะนี้ มีสถานที่แห่งหนึ่งที่ยังไม่ค่อยเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวเท่าไรนัก นั่นก็คือ “ถนนฮอปปี้” หรือฮอปปี้-โดริ ซึ่งมีบรรยากาศคล้ายๆ กับตรอกที่มีร้านแผงลอยเรียงรายเต็มไปหมดของเมืองไทยนั่นเอง แค่บรรยากาศคล้ายๆ นะครับ อันที่จริงแล้วที่นี่เป็นตรอกแคบๆ ที่ร้านค้าสองข้างทางจะนำเก้าอี้และโต๊ะนั่งมาวางหน้าร้าน และเปิดเป็นร้านสำหรับนั่งดื่มและทานอาหารได้ในช่วงกลางวัน ถึงจะไม่ใช่ร้านแผงลอยรถเข็นเหมือนเมืองไทย แต่บรรยากาศแบบนี้ก็ถือว่าหาดูได้ยากมากในญี่ปุ่นครับ

ช่วงหลังมานี้เราจะเห็นชาวตะวันตกที่ตรอกแห่งนี้เยอะเป็นพิเศษครับ อาจเพราะร้านรวงที่นี่แตกต่างไปจากร้านทั่วๆไป ทำให้ชาวตะวันตกรู้สึกอยากจะมาลองสัมผัสบรรยากาศของญี่ปุ่นสมัยเก่าดูบ้างก็เป็นได้นะครับ

แต่อย่างไรก็ดี ตรอกลักษณะนี้อาจจะดูคล้ายกับตรอกทั่วไปในประเทศเมืองร้อนอย่างประเทศไทยเรา แต่ที่ต่างไปคือตรอกที่นี่ในฤดูหนาวจะหนาวมากครับ เมื่อเข้าฤดูหนาวร้านสองข้างทางจะติดแผ่นพลาสติกใสคลุมไว้เหมือนเป็นผ้าม่าน และภายในร้านก็จะตั้งเตาผิงเอาไว้เพื่อให้ความอบอุ่นอย่างในรูปภาพทางซ้ายมือนี้ครับ นอกจากนี้หม้อไฟนาเบะช่วงฤดูหนาวก็ยังพิเศษกว่าปกติอีกด้วยนะครับ

ร้านแนะนำ

ถึงแม้ไม่ว่าร้านไหนก็ครึกครื้นไปด้วยแขกที่แวะเวียนมากันไม่ขาดสายก็ตาม แต่ก็มีร้านในถนนฮอปปี้แห่งนี้ที่เป็นที่กล่าวขวัญถึงและได้รับเสียงวิจารณ์ที่ดีเป็นพิเศษอยู่ครับ

– ร้านซุซุโยชิ : เอ็นเนื้อตุ๋น

– ร้านอิซากายะ โคจิ : เอ็นเนื้อตุ๋น (450 เยน) / เครื่องในย่าง (มตสึยากิ) (600 เยน)

– ร้านโชจัง : เอ็นเนื้อตุ๋น (450 เยน) / ปีกไก่ตุ๋น (400 เยน)

– ร้านไดคัตสึ : เอ็นเนื้อตุ๋น

ไหนๆ ถ้ามาที่ถนนฮอปปี้ทั้งทีแล้ว ต้องดื่มเบียร์หรือฮอปปี้ (เครื่องดื่มชนิดหนึ่ง) ไปด้วยมือหนึ่ง และลิ้มรสความอร่อยของเมนูเด็ดของที่นี่ คือ เอ็นเนื้อตุ๋นให้ได้นะครับ ดื่มไปทานไป เฮฮาได้บรรยากาศดีครับ ยิ่งถ้าแขกโต๊ะข้างๆ รู้ว่าคุณเดินทางมาไกลจากเมืองไทยแล้วล่ะก็ อาจได้เพื่อนใหม่ร่วมเฮฮาเพิ่มอีกก็ได้นะครับ

ฮอปปี้คือ ??

  • ฮอปปี้เป็นเครื่องดื่มแบบไหนกันนะ??
  • “ฮอปปี้” เป็นชื่อของน้ำอัดลมที่มีรสชาติเหมือนเบียร์ มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์เพียง 0.8% เท่านั้น จึงนิยมนำมาผสมดื่มกับเหล้าโชจุของญี่ปุ่น

    ถ้าเราไปสั่งฮอปปี้ที่ร้าน พนักงานจะนำฮอปปี้ขวดแก้วมาเสิร์ฟพร้อมกับเหยือกเบียร์หรือแก้วขนาดใหญ่ที่ใส่เหล้าโชจุมาเสิร์ฟให้ครับ ซึ่งลูกค้าสามารถใส่ฮอปปี้ลงไปผสมเองได้ตามใจชอบ หากมีฮอปปี้เหลือและต้องการสั่งเหล้าโชจุมาผสมเพิ่ม ก็สามารถบอกกับพนักงานของร้านว่า “นากา โอคาวาริ” (ขอส่วนผสมในแก้วเพิ่ม) และหากต้องการสั่งฮอปปี้เพิ่ม ต้องสั่งว่า “โซโตะ โอคาวาริ” (ขอส่วนผสมนอกแก้วเพิ่ม) ครับ

    นอกจากฮอปปี้รสดั้งเดิมแล้ว ยังมีฮอปปี้ดำซึ่งมีรสชาติขมและหวานกำลังดีคล้ายกับเบียร์ดำอีกด้วย ฮอปปี้ไม่มีสารพิวรีนที่จะมีมากในเบียร์ และยังแร่ธาตุต่างๆ หลายชนิด ทั้งวิตามินและกรดอะมิโนจำเป็น ซึ่งช่วงหลายปีที่ผ่านมานี้ ไม่เพียงเป็นที่นิยมในกลุ่มผู้ป่วยโรคเกาท์เท่านั้น แต่นิยมดื่มกันในหมู่สาวๆ วัยรุ่น และผู้ที่รักสุขภาพทั้งหลายอีกด้วย

Tokyo Sky Tree หอโตเกียวสกายทรี

Tokyo Sky Tree

Exif_JPEG_PICTURE

ตึกรูปร่างประหลาดในภาพนี้ คืออาคารสำนักงานของบริษัทผลิตเบียร์ชื่อดังของญี่ปุ่น (เบียร์อาซาฮี) ครับ

จากบริเวณย่านอาซาคุสะนี้ เราสามารถมองเห็นหอคอยโตเกียวสกายทรีซึ่งเป็นหอคอยส่งสัญญาณคลื่นวิทยุที่สูงที่สุดในโลก (ความสูง 634 เมตร) ได้อย่างชัดเจนครับ เพราะเป็นหอคอยที่มีความสูงมาก เมื่อมองจากตรงนี้เราอาจคิดว่าอยู่ใกล้ๆ นะครับ แต่เมื่อลองเดินจากอาซาคุสะดูแล้ว ต้องใช้เวลาประมาณ 20 นาทีเลยทีเดียว ถ้ามีเวลาเหลือเฟือผมแนะนำให้ลองเดินไป โดยข้ามแม่น้ำซุมิดะ และค่อยๆ เดินเที่ยวชมบรรยากาศของย่านเมืองเก่าของโตเกียวไปเรื่อยๆ ก็อาจจะสนุกไปอีกแบบก็ได้นะครับ

นอกจากนี้ ที่นี่ยังมีส่วนที่เป็นจุดท่องเที่ยว ศูนย์การค้า และตึกอาคารสำนักงาน ที่เรียกว่า “โตเกียวสกายทรีทาวน์” ซึ่งเราสามารถสนุกกับการช้อปปิ้ง หรือสำหรับคนที่ไม่ได้เป็นโรคกลัวความสูง ก็ต้องลองขึ้นไปที่จุดชมวิวบนหอคอยครับ ทั้งชั้นที่ 1 ที่ความสูง 350 เมตร และชั้นที่ 2 ที่ความสูง 450 เมตร จากบนหอคอยเราสามารถมองเห็นทิวทัศน์ของโตเกียวได้ทั่วจริงๆ ครับ

ลิฟท์ที่ขึ้นไปถึงจุดชมบนของหอคอยมีความเร็วถึง 600 เมตร/ นาที เลยนะครับ

ใครมีโอกาสต้องขึ้นไปลองให้ได้นะครับ ผมรอฟังความประทับใจของทุกท่านอยู่ครับ

■ รายละเอียด
・ชื่อ: หอคอยโตเกียวสกายทรี
・ที่อยู่: 1-1-13 Oshiage, Sumida-ku, Tokyo
・การเดินทาง:รถไฟ Tobu สาย Isesaki สถานี Narihirabashi เดินประมาณ 1 นาที
・เวลาทำการ: 8:00 – 22:00 (เปิดให้เข้าถึงเวลา 21:00)
・วันหยุด: ไม่มีวันหยุด
・โทรศัพท์: 03-5302-3470
・ค่าธรรมเนียม:ผู้ใหญ่ 2,060 เยน / นร. มัธยม 1,540 เยน / นร. ประถม 930 เยน (ราคา ณ. เดือน ก.ค. 2015) 
・เวลาที่ใช้: 1 ชม.
・ช่วงเวลาที่แนะนำ:ตลอดปี (โดยเฉพาะวันที่ฟ้าโปร่ง)
・URL: http://www.tokyo-skytree.jp/

ศึกษาเส้นทางไปหอคอยโตเกียวสกายทรีได้ที่นี่ ⇒http://www.tokyo-skytree.jp/access/

Tokyo Solamachi โตเกียวโซระมาจิ (สกายทรีทาวน์)

โตเกียวโซระมาจิ เป็นศูนย์การค้าขนาดใหญ่ที่อยู่ใต้หอคอยโตเกียวสกายทรี ซึ่งมีร้านค้ามากมายถึงประมาณ 300 ร้านด้วยกัน มีทั้งร้านขายของที่ระลึก ร้านอาหาร ร้านเสื้อผ้าแฟชั่นต่างๆ สามารถสนุกกับการช้อปปิ้งและทานอาหารอร่อยๆ ได้ทั้งก่อนขึ้นและหลังจากขึ้นไปบนหอคอยสกายทรีได้ครับ

 sky_tree02

■ รายละเอียด

・ชื่อ: โตเกียวโซระมาจิ (สกายทรีทาวน์)

・ที่อยู่: 1-1-2 Oshiage, Sumida-ku, Tokyo

・การเดินทาง: จากสถานีอาซาคุสะ นั่งรถไฟมา 1 สถานี(สายโตเกียวสกายทรี) ใช้เวลาประมาณ 2 นาที หรือเดินประมาณ 15 นาที

・เวลาทำการ: 10:00 -21:00  (ชั้น 6, 7, 30 และ 31 เปิด11:00~23:00)

・วันหยุด:วันหยุดจะต่างกันไปแล้วแต่ร้าน

 ・URL: http://www.tokyo-solamachi.jp/

 

ล่องเรือสบายๆ ในแม่น้ำซุมิดะ

tokyo_cruise001

ถ้าเราเดินจากวัดเซ็นโซย่านอาซาคุสะมุ่งหน้าไปทางหอคอยโตเกียวสกายทรีไปสักครู่ ก็จะเจอกับแม่น้ำซุมิดะครับ จากที่นี่เราสามารถนั่งเรือเที่ยวเพื่อชมทิวทัศน์ของแม่น้ำซุมิดะได้ ซึ่งใช้เวลาประมาณ 40 นาที ครับ

สะพานที่อยู่ช่วงเส้นทางระหว่าง “อาซาคุสะ” กับ “สะพานปลาฮิโนเดะ” ทั้ง 12 แห่ง ไม่ว่าจะเป็นสะพานอาสึมะบาชิหรือสะพานคิโยสุบาชิ เป็นต้น ล้วนแต่เป็นสะพานที่มีทั้งรูปร่างและสีสรรเป็นเอกลักษณ์ทั้งนั้นเลยครับ ลองนั่งเรือพร้อมฟังคำบรรยายเกี่ยวกับสถานที่สำคัญและซากของสถานที่โบราณต่างๆ และชมทิวทัศน์ที่เปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัยของอ่าวโตเกียวดู แล้วคุณจะได้สัมผัสกับกลิ่นอายของยุคสมัยเอโดะในโตเกียว “ยุคปัจจุบัน” แน่นอนครับ

Tokyo Cruise:https://www.suijobus.co.jp/index.html

“คัปปะบาชิ” ย่านแหล่งรวมเครื่องมือเครื่องใช้มากมาย

ย่านคัปปะบาชิซึ่งเป็นแหล่งรวมเครื่องมือเครื่องใช้ต่างๆ เป็นย่านที่อยู่ตรงกลางระหว่างอาซาคุสะกับอุเอโนะ ระหว่างสถานีทาวาระมาจิกับสถานีอินาริโจบนรถไฟสาย Ginza Line ย่านนี้เป็นย่านการค้าที่มีร้านขายเครื่องมือเครื่องใช้สำหรับร้านอาหารกว่า 170 ร้านทีเดียวครับ แต่เดิมย่านนี้นอกจากเหล่าพ่อครัวและผู้เกี่ยวข้องในวงการอาหารแล้ว ก็ไม่ค่อยเป็นที่รู้จักของคนทั่วไปเท่าไรนัก แต่ในปัจจุบันเริ่มโด่งดังขึ้นมา ว่าเป็นสถานที่ซึ่งชาวต่างชาติมักเดินทางมาเพื่อหาซื้อภาชนะใส่อาหารแบบญี่ปุ่น อุปกรณ์ทำอาหารต่างๆ เช่น มีดทำครัว และอาหารจำลองต่างๆ จนกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวย่อมๆ ไปในที่สุดครับ

asakusaa064

Ueno Park สวนอุเอโนะ

สวนสาธารณะอุเอโนะองชิเป็นสวนสาธารณะขนาดใหญ่ มีเนื้อที่ประมาณ 540,000 ตร.ม. ซึ่งพื้นที่ส่วนในและนอกประกอบไปด้วยอาคารสำคัญทางประวัติศาสตร์ และสถานที่ทางการศึกษาต่างๆ มากมาย ทั้งสวนสัตว์ พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ และพิพิธภัณฑ์ศิลปะแห่งชาติ เป็นต้น 

สวนแห่งนี้ยังเรียกได้ว่าเป็นเสมือนนครเมกกะของการ “ชมดอกซากุระ” มาตั้งแต่สมัยเอโดะอีกด้วย ภายในสวนมีต้นซากุระถึงประมาณ 1,200 ต้นเลยทีเดียว ซึ่งเราสามารถชมความงามของดอกซากุระพันธุ์ “คันซากุระ” ที่จะเริ่มบานตั้งแต่ต้นเดือน ก.พ. ไปจนถึงช่วงปลายเดือนเม.ย. และทุกปีในช่วงฤดูกาลชมดอกซากุระก็จะมีนักท่องเที่ยว และเหล่าผู้ที่ตั้งใจเดินทางมาเพื่อชมดอกไม้แวะเวียนมากันมากมาย

สวนอุเอโนะองชิ

・ชื่อ:3 Chome Ikenohata, Ueno Park, Daito-ku, Tokyo

・การเดินทาง:1) รถไฟ JR สาย Yamanote Line / รถไฟใต้ดิน สาย Ginza Line, Hibiya Line ลงรถที่สถานี “Ueno” เดินประมาณ 2 นาที หรือ 2) รถไฟสาย Oedo Line สถานี “Ueno-okachimachi” เดินประมาณ 5 นาที หรือ 3) รถไฟสาย Keisei Line สถานี “Keisei Ueno” เดินประมาณ 1 นาที

・เวลาเปิดทำการ:5:00 – 23:00 (ห้ามไม่ให้เข้าสวนนอกเวลาทำการ)

・วันหยุด:ไม่มีวันหยุด

・โทรศัพท์:03-3828-5644 (สำนักงานสวนอุเอโนะองชิ)

・ค่าบริการ:ฟรี

・URL:http://www.kensetsu.metro.tokyo.jp/toubuk/ueno/index_top.html

ข้อมูลนำเที่ยวภายในสวนอุเอโนะ (ภาษาอังกฤษ:http://www.taitocity.net/etc/UenoArtGuide_2015_omote.pdf

แผนที่สวนอุเอโนะและสถานที่ต่างๆ บริเวณใกล้เคียง ดาวน์โหลดได้ที่นี่

asakusa066

 

 

 

 

 

 

 

สระชิโนบาสึโนะอิเคะ

ที่สระชิโนบาสึโนะอิเคะแห่งนี้ ในช่วงฤดูร้อนดอกบัวจะบานสะพรั่งเต็ม ภาพของดอกบัวสีชมพูและใบบัวสีเขียวเต็มสระเป็นภาพที่สวยงามมากครับ นอกจากนี้ในช่วงฤดูหนาวยังมีนกหลายชนิด เช่น นกเป็นน้ำ บินอพยพมาอาศัยที่นี่อีกด้วย

พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติโตเกียว

เป็นพิพิธภัณฑ์ที่เก่าแก่ที่สุดในญี่ปุ่น ซึ่งสร้างขึ้นโดยจุดประสงค์เพื่อจัดแสดงและเก็บรักษาสมบัติทางวัฒนธรรมของญี่ปุ่นและเอเชียตะวันออกเอาไว้ ปัจจุบันมีสมบัติของชาติและสมบัติทางวัฒนธรรมสำคัญเก็บรักษาไว้ที่นี่ถึงกว่า 150,000 รายการด้วยกัน สำหรับใครที่สนใจอยากสัมผัสกับวัฒนธรรมญี่ปุ่นต้องลองไปที่นี่ให้ได้นะครับ

พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติโตเกียว (TOKYO NATIONAL MUSEUM)

・ที่อยู่:13-9 Ueno Park, Daito-ku, Tokyo 110-8712

・การเดินทาง:รถไฟ JR สถานีอุเอโนะ ประตูทางออก Ueno Park Exit เดินประมาณ 10 นาที / รถไฟใต้ดิน Tokyo Metro สาย Ginza Line, Hibiya Line สถานีอุเอโนะ/ รถไฟ Keisei สถานี Keisei Ueno เดินประมาณ 15 นาที

・เวลาทำการ:9:30 – 17:00 (เปิดให้เข้าถึง 16:30) / หอสมุด 9:30 -17:00 (จันทร์ – ศุกร์)

・วันหยุดทำการ : วันจันทร์, วันหยุดสิ้นปี-ปีใหม่ (24 ธ.ค. 2015 – 1 ม.ค. 2016)

・โทรศัพท์:03-3822-1111(เจ้าหน้าที่ตัวแทน)

・ค่าบริการ:บุคคลทั่วไป 620(520)เยน, นักศึกษา  410(310)เยน *ราคาในวงเล็บเป็นราคาสำหรับคณะทัวร์ที่มาพร้อมกันตั้งแต่ 20 คนขึ้นไป

・URL:http://www.tnm.jp/ (ภาษาอังกฤษ)

พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ (NATIONAL MUSEUM OF NATURE AND SCIENCE)

พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติสร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1877 (ปีเมจิที่ 10 ) เป็นพิพิธภัณฑ์เก่าแก่ที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานที่สุดของญี่ปุ่นแห่งหนึ่งเลยทีเดียว ที่นี่เป็นแหล่งเก็บรวบรวมวัตถุสำคัญๆ มากมายถึงกว่า 4 ล้านชิ้น ซึ่งมีความเกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์ความเป็นมาของความรู้ทางวิทยาศาสตร์ของมนุษยชาติ รวมถึงไปถึงประวัติความเป็นมาของสิ่งมีชีวิตและโลกของเราอีกด้วย

พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ

・ที่อยู่:7-20 Ueno Park, Daito-ku, Tokyo 110-8718

・การเดินทาง:รถไฟ JR  สถานี “อุเอโนะ” (ประตูทางออก Ueno Park) เดินประมาณ 5 นาที / รถไฟใต้ดิน Tokyo Metro สาย Ginza Line, Hibiya Line สถานี “อุเอโนะ” (ประตูทางออก 7) เดินประมาณ 10 นาที / รถไฟ Keisei สถานี “Keisei Ueno” (ประตูทางออกด้านหน้า) เดินประมาณ 10 นาที

・เวลาทำการ:9:00 – 17:00  (เปิดให้เข้าถึง 16:30) / วันศุกร์ 9:00 – 20:00 (เปิดให้เข้าถึง 19:30)

・วันหยุด:หยุดทุกวันจันทร์(ถ้าวันจันทร์ตรงกับวันหยุดนักขัตฤกษ์จะเลื่อนเป็นวันอังคาร) / วันหยุดสิ้นปี-ปีใหม่ (28 ธ.ค. – 1 ม.ค.)

・โทรศัพท์:03-5777-8600

・ค่าบริการ:บุคคลทั่วไปและนักศึกษา 620 เยน / คณะทัวร์ตั้งแต่ 20 คนขึ้นไป 310 เยน

・URL:http://www.kahaku.go.jp/english/  (ภาษาอังกฤษ)

พิพิธภัณฑ์ศิลปะแห่งชาติ (THE NATIONAL MUSEUM OF WESTERN ART)

งานศิลปะที่พิพิธภัณฑ์ศิลปะแห่งชาตินี้ เริ่มต้นมาจากคอลเล็คชั่นของมัตสึคาตะถึง 370 ชิ้นเมื่อปี ค.ศ. 1959 เป็นหลัก จนถึงปัจจุบันมีผลงานศิลปะมากมายที่ถูกเก็บรักษาไว้ที่นี่ ทั้งภาพเขียน งานประติมากรรม ภาพสเก็ตช์ ภาพพิมพ์ และงานหัตถกรรมต่างๆ รวมทั้งสิ้นถึง 5,500 ชิ้น นอกจากนี้สิ่งที่มีค่ามากไม่แพ้ผลงานศิลปะของพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ ก็คือตัวอาคารนั่นเองครับ ซึ่งอาคารนี้เป็นผลงานการออกแบบของสถาปนิกชื่อดัง เลอกอร์บูซีเย (Le Corbusier) ที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นสถาปนิกแห่งศตวรรษที่ 20 และยังเป็นงานสถาปัตยกรรมเพียงแห่งเดียวของเขาในญี่ปุ่นอีกด้วย รัฐบาลญี่ปุ่นยื่นเรื่องเพื่อจดทะเบียนให้เป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรม และได้รับการขึ้นทะเบียนให้อยู่รายชื่อมรดกโลกชั่วคราวขององค์กรยูเนสโก ปัจจุบันถูกกำหนดให้เป็นสมบัติทางวัฒนธรรม (สถาปัตยกรรม) สำคัญของชาติ

seiyou bijutukan 00001

พิพิธภัณฑ์ศิลปะแห่งชาติ

・ที่อยู่:7-7 Ueno Park, Daito-ku, Tokyo 110-0007

・การเดินทาง:รถไฟ JR สถานีอุเอโนะ (ประตู Ueno Park) เดินประมาณ 1 นาที / รถไฟ Keisei สถานี Keisei Ueno เดินประมาณ 7 นาที / รถไฟใต้ดิน Tokyo Metro สาย Ginza Line, Hibiya Line สถานีอุเอโนะ เดินประมาณ 8 นาที

・เวลาทำการ:9:30 – 17:30 / ทุกวันศุกร์ 9:30 – 20:00 (เปิดให้เข้าได้ถึงก่อนเวลาปิด 30 นาที)

・วันหยุด:หยุดทุกวันจันทร์  *แต่ถ้าวันจันทร์ตรงกับวันหยุดนักขัตฤกษ์หรือวันหยุดชดเชยจะเปิดทำการตามปกติ และเลื่อนไปหยุดวันอังคารแทน *วันหยุดสิ้นปี-ปีใหม่ (28 ธ.ค. – 1 ม.ค.)

・โทรศัพท์:03-3828-5131

・ค่าบริการ:บุคคลทั่วไป 430 เยน / นักศึกษา 130 เยน  

                       ราคาส่วนลดสำหรับคณะทัวร์ตั้งแต่ 20 คนขึ้น : บุคคลทั่วไป 220 เยน / นักศึกษา 70 เยน

・URL:http://www.nmwa.go.jp/en/

สวนสัตว์อุเอโนะ

สวนสัตว์อุเอโนะตั้งอยู่ที่มุมหนึ่งของบริเวณสวนอุเอโนะ เป็นสวนสัตว์แห่งแรกของญี่ปุ่นซึ่งเปิดทำการเมื่อปี ค.ศ. 1882 (ปีเมจิที่ 15) มีพื้นที่รวมทั้งหมด 142,000 ตร.ม. และมีสัตว์ถึงประมาณ 400 ชนิด กว่า 3,000 ตัว และยังเป็นสวนสัตว์ที่มีจำนวนผู้เข้าชมมากที่สุดในญี่ปุ่นด้วยนะครับ

นอกจากนี้ภายในสวนสัตว์ยังแบ่งออกเป็นสวนฝั่งตะวันตกและสวนฝั่งตะวันออก ซึ่งสามารถเดินทางเชื่อมกันได้ด้วยรถโมโนเรลขบวนแรกของญี่ปุ่นอีกด้วย สวนฝั่งตะวันออกที่เป็นสวนหลักจะอยู่ที่บริเวณที่เป็นเนินเตี้ยของสวนอุเอโนะซึ่งมีต้นไม้ใหญ่หนาแน่น เป็นส่วนเราสามารถชมสัตว์สายพันธุ์ลิงขนาดกลาง หมีแพนด้า ป่าที่อยู่ของกอลิล่าและเสือ ป่าช้าง เนินบ้านหมี และโซนทะเลของหมีขาวและแมวน้ำ

สวนสัตว์อุเอโนะ

・ที่อยู่: 9-83 Ueno Park, Daito-ku, Tokyo 110-8711

・การเดินทาง:เหมือนกับการเดินทางไปสวนอุเอโนะ

・เวลาทำการ:9:30 – 17:00 *อาจมีการเปลี่ยนแปลงเวลาทำการ

・วันหยุด:วันจันทร์ (กรณีวันจันทร์ตรงกับวันหยุดนักขัตฤกษ์หรือวันหยุดชดเชย จะเลื่อนไปหยุดวันถัดไปแทน), วันหยุดสิ้นปี-ปีใหม่ (29 ธ.ค. – 1 ม.ค.)

・โทรศัพท์:03-3828-5171 (เจ้าหน้าที่ตัวแทน)

・ค่าบริการ:บุคคลทั่วไป 600 เยน / ผู้สูงอายุตั้งแต่ 65 ปีขึ้นไป 300 เยน / นักเรียน ม.ต้น 200 เยน  

                       กรณีคณะทัวร์ตั้งแต่ 20 คนขึ้นไป  : บุคคลทั่วไป 480 เยน / ผู้สูงอายุตั้งแต่ 65 ปีขึ้นไป 240 เยน / นักเรียน ม. ต้น 160 เยน

・URL:http://www.tokyo-zoo.net/thai/index.html (ภาษาไทย)

จุดแนะนำสำหรับเด็กๆ:http://www.tokyo-zoo.net/zoo/ueno/recommended_courses/pdf/oyako.pdf

Ameyoko ตลาดอาเมะโยโกะ

ถ้าเดินจากสถานีอุเอโนะมาทางสถานีโอคาจิมาจิประมาณ 400 เมตร เราจะเจอกับย่านการค้าที่มีร้านค้ามากมายชื่อว่า “อาเมะโยโกะโจ ทงยะไก (อาเมะโยโกะ)” หรือตลาดขายส่งอาเมะโยโกะโจ นั่นเองครับ

ชื่อของตลาดแห่งนี้มีที่มาจากเมื่อครั้งหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 เป็นตลาดมืดของพ่อค้าขายลูกอม (อาเมะ) และร้านค้าที่ขายสินค้าต่างๆ ให้กับพวกทหารอเมริกันที่มาประจำการอยู่

เมื่อพูดถึงตลาดอาเมะโยโกะ ส่วนใหญ่แล้วเราจะนึกถึงสินค้าจำพวกอาหารสดต่างๆ เช่น ปลา และปูทะเล ที่ขายกันในราคาถูกแบบลดแลกแจกแถม หรือไม่ก็นึกถึงบรรยากาศที่พ่อค้าส่งเสียงเรียกลูกค้ากันอย่างครึกครื้น แต่นอกจากสินค้าจำพวกอาหารแล้ว ที่นี่ยังมีร้านค้าที่ขายสินค้าประเภทอื่นอีกมากมายครับ ทั้งกระเป๋า เสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่ม ของใช้กระจุกกระจิก นอกจากนี้ในปัจจุบันยังมีสินค้าที่เป็นวัตถุดิบสำหรับทำอาหารจีนและอาหารแถบภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อย่างเมืองไทยเราขายด้วยนะครับ

ไม่ว่าจะแวะเวียนไปเมื่อไร ตลาดอาเมะโยโกะก็จะคึกคักไปด้วยผู้คนตลอดเวลา และในช่วงปลายปีซึ่งเป็นช่วงที่จะคึกคักมากที่สุด จะมีผู้คนที่มาหาซื้อของเพื่อเตรียมตัวสำหรับเทศกาลปีใหม่ ทำให้คนแน่นมากจนแทบจะไม่มีที่เดินกันเลยทีเดียว ซึ่งก็มีรายการทีวีไปถ่ายทำบรรยากาศของตลาดในช่วงดังกล่าวเอาไว้ด้วยครับ

 

 ueno008

■ รายละเอียด

・ชื่อ: ตลาดขายส่งเอเมะโยโกะโจ ทงยะไก (ตลาดอาเมะโยโกะ)

・ที่อยู่: Ueno, Daito-ku, Tokyo

・การเดินทาง:เดินจากสถานี JRโอคาจิมาจิ หรือ JR อุเอโนะ ประมาณ 1 นาที

・โทรศัพท์:03-3832-5053 (สมาคมร้านค้าตลาดอาเมะโยโกะ)

・URL: http://www.ameyoko.net/

 

แหล่งช้อปปิ้งบริเวณใกล้ๆ วัดเซ็นโซย่านอาซาคุสะ

ถนนนากามิเซะ

ขนมนิงเกียวยากิต้นตำรับ  ร้านคิมุระยะฮงเท็น

ถ้าพูดถึงขนมนิงเกียวยากิล่ะก็ ในย่านอาซาคุสะแห่งนี้ก็มีอยู่หลายร้าน แต่ร้านที่เรียกได้ว่าเป็นต้นตำรับเจ้าเก่าที่เริ่มกิจการมาตั้งแต่สมัยเมจิ ก็คือร้านคิมุระยะฮงเท็นครับ ซึ่งขนมนิงเกียวยากิของที่นี่ก็มีหลายรูปร่างครับ ทั้งรูปเจดีย์ห้าชั้น และประตูคามินาริมง เหมาะมากที่จะเป็นของที่ระลึกของย่านอาซาคุสะจริงๆ ครับ

รายละเอียด

・ชื่อ:คิมุระยะฮงเท็น

・ที่อยู่:2-3-1 Asakusa, Daito-ku, Tokyo

・เวลาทำการ: 9:00 – 19:00

・วันหยุด:หยุดทุกวันอังคาร

・โทรศัพท์: 03-3841-7055

・ราคา:10 ชิ้น 800 เยน

・URL: http://www.kimura-ya.co.jp/shouhin.html

ขนมอาซาคุสะคิบิดังโงะ ร้านอาสึมะ

ขนมคิบิดังโงะที่ทำขึ้นโดยคงรสชาติแบบสมัยเอโดะเอาไว้ ทำให้ร้านอาสึมะเป็นร้านยอดนิยมที่มีลูกค้าต่อคิวยาวตลอดเวลา ขนมดังโงะเสียบไม้ที่โรยด้วยผงคินาโคะหอมกรุ่นน่าทานจริงๆ! จะซื้อแล้วถือเดินทานไปเดินเที่ยวไปด้วยก็เพลินไปอีกแบบครับ

รายละเอียด

・ชื่อ: ขนมอาซาคุสะคิบิดังโงะ ร้านอาสึมะ

・ที่อยู่:1-18-1 Asakusa, Daito-ku, Tokyo

・เวลาทำการ: 9:00 – 19:00

・วันหยุด:ไม่มีวันหยุด

・โทรศัพท์: 03-3843-0190

・ราคา:5 ไม้ 300 เยน

・URL: http://www.asakusa-nakamise.jp/shop-1/azuma/index.html

อาซาคุสะโรคุ

ร้านดองกิ โฮเต้

asakusa048

ถ้าต้องการเลือกซื้อของฝากกลับบ้านล่ะก็ ลองแวะไปที่ร้านนี้ดูสักครั้งไหมครับ? ที่ร้านมีพื้นที่กว้างขวางมาก มีทั้งสินค้ายี่ห้อดังจากต่างประเทศ เครื่องใช้ไฟฟ้า เสื้อผ้า เครื่องสำอาง ของใช้ประจำวัน ของใช้ในบ้าน ของเล่น เครื่องเขียน อุปกรณ์กิจกรรมกลางแจ้ง ผลิตภัณฑ์อาหาร เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และที่สำคัญคือมีของฝากของที่ระลึกสำหรับนักท่องเที่ยวชางต่างชาติครับ สินค้าที่นี่ไม่ว่าอะไรก็ราคาถูกไปหมด คนไทยหลายคนก็มักจะไปซื้อของกลับบ้านกันที่นี่ครับ

ที่อยู่:2-10 Asakusa, Daito-ku, Tokyo 111-0032 / เวลาทำการ:เปิดตลอด 24 ชม.  / TEL:03-5826-2511/ เว็บไซต์:http://www.donki.com/store/shop_detail.php?add=1&shop_id=326

ตลาดอุเอโนะ อาเมะโยโกะ

yodobashi001

โยโดบาชิคาเมร่า มัลติมีเดีย อุเอโนะ

 

โยโดบาชิคาเมร่า เป็นห้างขายเครื่องใช้ไฟฟ้ายักษ์ใหญ่ของญี่ปุ่น ที่นี่เป็นสาขาอุเอโนะครับ

■ รายละเอียด

・ชื่อ:โยโดบาชิคาเมร่า มัลติมีเดีย อุเอโนะ

・ที่อยู่:4-10-10 Ueno, Daito-ku, Tokyo 110-0005

・การเดินทาง:รถไฟ JR สาย Yamanote Line สถานีอุเอโนะ / รถไฟใต้ดิน Tokyo Metro สาย Ginza สถานีอุเอโนะ

・เวลาทำการ:09:30 – 21:00

・วันหยุด:ไม่มีวันหยุด

・โทรศัพท์:03-3837-1010

・URL:http://www.yodobashi.com/ec/store/0025/

ร้านนิคิโนะคาชิ

nikinokashi001

ร้านขายขนมราคาย่อมเยาที่มีสินค้าให้เลือกซื้อกันตั้งแต่ขนมคิตแคทรสชาเขียวมัทจะที่เป็นของฝากยอดฮิตอันดับหนึ่งของเมืองไทย และขนมอื่นๆ อีกมากยมาย ร้านนี้จะครึกครื้นไปด้วยนักท่องเที่ยวไทยอยู่ตลอดเลยครับ ในย่านอุเอโนะนี้จะมีอยู่ 2 สาขา แต่สาขาบิ๊กคัง ที่ตลาดอาเมะโยโกะจะเป็นร้านปลอดอากรครับ ภายในร้านมีป้ายเขียนบอกรายละเอียดต่างๆ เป็นภาษาไทยด้วย

■ รายละเอียด

・ชื่อ: ร้านนิคิโนะคาชิ บิ๊กคัง ที่ตลาดอุเอโนะอาเมะโยโกะ

・ที่อยู่:4-6-1 Ueno, Daito-ku, Tokyo

・เวลาทำการ:10:00 – 20:00

・การเดินทาง:รถไฟ JR สาย Yamanote Line สถานีอุเอโนะ / หรือสถานีโอคาจิมาจิ

・โทรศัพท์:03-3833-4051

・URL:http://www.nikinokashi.co.jp/shoplist/bickan/

แหล่งท่องเที่ยวอื่นๆ ในย่านอุเอโนะ และอาซาคุสะ

蛇骨湯 – 台東区浅草

โรงอาบน้ำ “จาโคตสึยุ” ในย่านอาซาคุสะ เขตไดโต

เป็นโรงอาบน้ำแบบญี่ปุ่นดั้งเดิมที่เปิดกิจการมาตั้งแต่สมัยเอโดะ อยู่ใกล้กับวัดเซ็นโซย่านอาซาคุสะโดยใช้เวลาเดินไปเพียง 10 นาที

แม้จะเป็นในยุคสมัยที่โรงอาบน้ำแบบญี่ปุ่นดั้งเดิม (หรือที่เรียกว่า “เซ็นโต”) ค่อยๆ สูญหายไปเช่นนี้ก็ตาม หากคุณมาที่นี้ รับรองว่าจะได้ผ่อนคลายกับการแช่น้ำร้อนในห้องอาบน้ำแบบสมัยเก่าที่มีรูปภาพภูเขาฟูจิวาดไว้บนฝาผนังได้อย่างสบายใจแน่นอน น้ำร้อนสีดำที่ผุดขึ้นมาจากใต้ดินลึก 100 เมตรของที่นี่ เป็นที่ชื่นชมกันว่าน้ำจะไม่หายร้อนง่ายๆ และถึงแม้จะเป็นโรงอาบน้ำเล็กๆ แต่ก็มีทั้งบ่อแช่น้ำกลางแจ้ง อ่างจากุซซี่ และห้องซาวน่าไว้บริการด้วย นอกจากนี้ยังมีชุดเซ็ทอุปกรณ์อาบน้ำราคาย่อมเยาเพียง 140 เยนไว้บริการด้วย นักท่องเที่ยวจึงสามารถมาใช้บริการแช่น้ำที่นี่ได้อย่างสะดวกครับ ปัจจุบันก็เริ่มมีนักท่องเที่ยวต่างชาติมาแช่น้ำที่นี่กันบ้างแล้วเหมือนกันนะครับ

■ รายละเอียด

・ชื่อ:จาโคตสึยุ
・ที่อยู่:1-11-11 Asakusa, Daito-ku, Tokyo

・การเดินทาง:รถไฟใต้ดิน Tokyo Metro สาย Ginza Line สถานีทาวาระมาจิ ประตูทางออก 3 เดินประมาณ 3 นาที / รถไฟสาย Toei Asakusa Line สถานีอาซาคุสะ ประตูทางออก A1 เดินประมาณ 5 นาที
・TEL:03-3841-8645
・เวลาทำการ:13:00 – 23:30 (ร้านปิดเวลา 24:00)
・วันหยุด:หยุดทุกวันอังคาร
・ราคา:ผู้ใหญ่ราคา เริ่มตั้งแต่ 460 เยน ถึง 660 เยน (ใช้บริการซาวน่า)
・URL:http://www.jakotsuyu.co.jp/

แผนที่ย่านอุเอโนะ / อาซาคุสะ

コメントを残す