Welcome to Japan
ในที่สุดก็เดินทางมาถึงประเทศญี่ปุ่นแล้ว ใช้เวลาทั้งหมด 6 ชั่วโมง คงเหนื่อยกันไม่น้อย
หลังจากที่เดินทางมาถึงสนามบินนาริตะ เราต้องผ่านด่านตรวจคนเข้าเมือง รอรับสัมภาระกระเป๋าเดินทาง จากนั้นก็เข้าสู่ด่านศุลกากรเพื่อตรวจเช็คสัมภาระที่เราถือเข้ามา ในที่สุดก็ผ่านด่านต่างๆมาได้แล้ว ออกเดินทางต่อกันได้เลย
ภายในสนามบินหลังจากที่เราลงจากเครื่องบินแล้ว จะมีห้องน้ำอยู่ตามจุดต่างๆ ผมแนะนำว่าควรเข้าห้องน้ำล้างหน้า ทำธุระส่วนตัวกันก่อนจะดีกว่านะครับ
1)ด่านตรวจสอบและกักกัน
ถ้าได้รับเอกสารการเข้าเมือง ซึ่งเป็นหนึ่งใน Process ของ Immigration เราต้องกรอกเอกสารให้ครบตามที่ได้ระบุไว้ในเอกสาร ซึ่งอาจจะกรอกไว้ล่วงหน้าหรือจะกรอกที่เคาท์เตอร์ก็ได้ สำหรับคนที่ไม่สบาย ปวดท้องก็ให้บอกเจ้าหน้าที่นะครับ เจ้าหน้าที่จะพาไปยังห้องรับรองครับ จากนั้นในห้องรับรองจะมีเครื่องตรวจวัดอุณภูมิไข้ สำหรับคนที่มีไข้ก็อาจจะถูกกักตัวไว้ก่อน แต่สำหรับผู้ที่มีอาการปกติก็ให้ไปด่านตรวจคนเข้าเมืองได้ตามปกติเลยครับ
2)ณ เคาท์เตอร์ของด่านตรวจคนเข้าเมือง
เราต้องโชว์พาสสปอร์ตให้เจ้าหน้าที่ประจำเคาท์เตอร์ ซึ่งเคาท์เตอร์จะแบ่งเป็นเคาท์เตอร์สำหรับคนญี่ปุ่นและเคาท์เตอร์สำหรับชาวต่างชาติ เพื่อป้องกันปัญหาก่อการร้าย ในขั้นตอนนี้ก็จะมีการถ่ายรูปเราเอาไว้ด้วยครับ
ในขั้นตอนนี้อาจจะเจอแถวยาวและต้องเสียเวลาต่อคิว แต่ก็ไม่นานเกินรอนะครับ หลังจากที่เราผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองเรียบแล้วแล้ว ให้ใช้ลิฟต์ลงไปที่ชั้น 1 ได้เลยครับ
3)รับกระเป๋าเดินทาง
เรามารถเช็คได้ว่ากระเป๋าเราอยู่ช่องสายพานไหน โดยเช็คที่ Information board ซึ่งจะแสดงชื่อสายการบิน และเที่ยวบิน จากนั้นให้เราไปรอรับกระเป๋าที่สายพานดังกล่าว หลังจากที่กระเป๋าเราออกมาแล้วให้หยิบและตรวจเช็คให้เรียบร้อย
4)ด่านตรวจสอบศุลกากร
ก่อนเราจะเข้าประเทศญี่ปุ่นเราต้องกรอกเอกสาร CUSTOM DECLARATION ให้เรียบร้อยซึ่งเอกสารนี้เราจะได้ตั้งแต่อยู่บนเครื่องบิน หรือใครที่ยังไม่ได้ก็สามารถขอรับเอกสารใบนี้จากเจ้าหน้าที่หลังจากที่ลงเครื่องก็ได้ครับ ใครมีของที่หิ้วเข้ามาด้วยก็ให้กรอกรายละเอียดลงไปให้ครบ พร้อมทั้งระบุจำนวนด้วยนะครับ ซึ่งจะมีช่องให้กรอกที่ด้านหลัง ส่วนใครที่ไม่มีของที่หิ้วเข้ามาด้วยเป็นแค่สัมภาระของใช้ส่วนตัวทั่วไปก็ไม่ต้องกรอกด้านหลังครับ กรอกแค่ด้านหน้าก็พอ
・ใครที่มีของหิ้วเข้ามาและไม่เกินจำนวนที่ทางด่านศุลกรกรกำหนดให้ไปที่ช่องตรวจสีเขียว
・ส่วนใครที่มีของหิ้วเข้ามาเกินที่ทางด่านศุลกากรกำหนดหรือไม่แน่ใจว่าเกินหรือไม่ก็ให้ไปที่ช่องตรวจสีแดง
ในขั้นตอนนี้เราจะถูกถามคำถามง่ายๆเกี่ยวกับสิ่งของที่เราถือมาด้วยเป็นภาษาอังกฤษ 2 -3 คำถาม และส่วนใหญ่แล้วจะไม่มีการเปิดดูสิ่งของด้านในครับ
Arrival Lobby
สนามบินนาริตะตั้งอยู่ในเขตจังหวัดชิบะเป็นจังหวัดที่อยู่ใกล้ๆกับโตเกียว ระยะทางจากสถานี Narita airport terminal ถึงสถานี Ueno มีระยะทาง 70 กม. สามารถเดินทางจากสนามบินเข้าไปในยังตัวเมืองได้ทั้งรถไฟ รถเมล์ ส่วนวิธีการซื้อตั๋วผมจะขออธิบายต่อไปนี้นะครับ
อีกอย่างนะครับ ภายในสนามบินนาริตะจะมี 3 Terminal ใครที่ใช้บริการของการบินไทยจะอยู่ที่ Terminal 1 นะครับ
สายการบินต่างๆที่เดินทางมาจากประเทศไทย จะอยู่แต่ละ Terminal ดังต่อไปนี้
Terminal 1 THAI AIRWAYS INTERNATIONAL (TG) All NIPPON AIRWAYS (NH) JET AIRWAYS (9W) AIR CANADA(AC) DELTA AIRLINES (DL) |
Terminal 2 JAPAN AIRLINES (JL) AMERICAN AIRLINES (AA) BANGKOK AIRWAYS (PG) AIR ASIA X (XJ) |
Terminal 3 JET STAR (JQ) |
Narita International Airport: http://www.narita-airport.jp/en/index.html (英語)
ทีนี้เรามาดูกันนะครับสิ่งที่เราจะเตรียมไว้ได้ตั้งแต่อยู่ในสนามบินครับ
เช่า Wi-Fi
เราสามารถใช้ Wi-Fi ฟรีได้ทั้งในสนามบิน สถานีรถไฟ ร้านสตาบัค จนกระทั่งโรงแรมต่างๆ รวมถึงภายในรถไฟจากสนามบินนาริตะสาย Sky Liner หรือ Narita Express ก็สามารถใช้ Wi-Fi ได้ฟรี แต่ว่าถ้าเราออกจากพื้นที่ตรงนั้นและไม่มีสัญญาณ Wi-Fi เราก็ไม่สามารถใช้งานได้ต่อ ดังนั้นเราควรเช่า Wi-Fi กับผู้ให้บริการเอาไว้จะดีกว่า
ในระหว่างที่เราอยู่ญี่ปุ่น เราอยากเช็ค E-mail อยากอัพรูปผ่าน Facebook อยากเล่น Line อยากติดต่อกับครอบครัวหรือเพื่อนๆ หรืออยากหาข้อมูลแหล่งท่องเที่ยวและวิธีการเดินทาง ถ้าเรามี Wi-Fi ก็จะสะดวกรวดเร็วสามารถใช้งานได้ทันที
แต่สำหรับผู้ที่ไม่สะดวกใช้ Wi-Fi ก็สามารถเปิด Roaming และเชื่อมต่อ Internet ได้ มีทั้งการใช้งานแบบ 3G และ 4G
*สำหรับคนที่ต้องการเปิด Roaming สามารถดูรายละเอียดผู้บริการได้ที่นี่
ส่วนใครที่ไม่ได้เปิด Roaming หรืออยากเชื่อมต่อ Internet ก็สามารถเช่า Mobile Wi-Fi ได้ที่สนามบินนาริตะ
Mobile Wi-Fi เป็นเครื่องสำหรับปล่อยสัญญาณ Internet มีขนาดเล็กพกพาได้สะดวก ส่วนใครที่เช่ามาแล้วการติดตั้งเชื่อมต่อเข้ากับ Smart Phone , IPad , Notebook , PC ก็สามารถทำได้โดยง่าย และสัญญาณ Wi-Fi ก็ค่อนข้างเร็วพอสมควร สามารถเชื่อมต่อได้หลายๆเครื่องพร้อมกัน
สำหรับคนที่จะเช่า Mobile Wi-Fi สามารถดูรายละเอียดผู้ให้เช่าบริการภายในสนามบินนาริตะได้ที่ด้านล่างนี้
http://www.narita-airport.jp/en/guide/service/list/svc_19.html#t1 (英語)
สำหรับพื้นที่ให้บริการจะเขียนเอาไว้ว่า Domestic และใครที่ยังไม่ได้จอง WI-FI เอาไว้ล่วงหน้าก็สามารถเช่าได้เช่นกัน
โดยจะมีคำว่า Yes ในส่วนของ Same Day Pick Up ในร้านที่ให้บริการ
Router ของ Grobal Advanced Communications (Eco Wi-Fi 21Mbps) อาจจะมีราคาถูกกว่า http://www.globaladvancedcomm.com/pocketwifi.html
ผมมีที่แนะนำสำหรับร้านค้าผู้ให้บริการราคาถูก สามารถดูรายละเอียดได้ด้านล่างนี้ครับ
・Wi-Fi Rental store: ลงทะเบียนล่วงหน้าผ่าน Website สามารถรับเครื่องได้ที่ที่ทำการไปรษณีย์ภายในสนามบินนาริตะ หรือที่โรงแรมที่เราสำรองเอาไว้
WEBSITE:http://en.wifi-rental-store.jp/
・Any Wi-Fi :ลงทะเบียนล่วงหน้าผ่าน Website สามารถรับเครื่องได้ที่ที่ทำการไปรษณีย์ภายในสนามบินนาริตะ
WEBSITE:http://anyfi.jp/index_en.html
การซื้อบัตร Suica
สามารถซื้อบัตร Suica ได้ที่ JR East Travel ภายในสนามบินนาริตะ บัตร Suica เป็นบัตร IC Card เพียงแค่บัตรใบเดียวสามารถใช้ขึ้นรถไฟ รถเมล์ และสามารถใช้ซื้อของได้ที่ร้านสะดวกซื้อ ซึ่งเปรียบเสมือนกระเป๋าสตางค์อีกใบหนึ่งของเรานั่นเอง สามารถดูรายละเอียดการซื้อบัตรได้ที่นี่ครับ
ภายในสนามบินนาริตะ
ธนาคารและสถานที่แลกเปลี่ยนเงินตรา
■ธนาคาร
・ชื่อ : The Bank of Tokyo-Mitsubishi UFJ, Ltd.
・สถานที่ :Narita Airport Terminal 1 Central ชั้น 4
・เวลาทำการ :9.00 น. – 18.00 น. (Foreign exchange business)
9.00 น. – 15.00 น. (หยุด ส – อ และวันหยุดนักขัตฤกษ์)
・Regular holiday : ไม่มี
・TEL :0476-32-5711 (จ – ศ) /0476-32-5712 (ส-อ และวันหยุดนักขัตฤกษ์)
นอกจากนี้ยังมีธนาคารอื่นๆอีก เช่น Sumitomo Mitsui Banking Corporation , Mizuho Bank, Chiba Bank, Keiyo Bank
สำหรับรายละเอียดสามารถดูตาม Link ด้านล่างนี้ครับ *มีเรทสำหรับแลกเงินไทยด้วยนะครับ
・URL ธนาคาร :http://www.narita-airport.jp/en/guide/service/list/svc_11.html
*สำหรับใครที่อยากแลกเงินไทยเป็นเงินเยนญี่ปุ่น สามารถตรวจสอบค่าเงินได้ที่ http://www.narita-airport.or.jp/exchange_e/index.html ครับ
Limousine Bus Counter
สำหรับใครที่ต้องการใช้บริการรถลีมูซีน ซึ่งจะรับส่งตั้งแต่สนามบินไปยังสถานที่ต่างๆเช่น สถานีรถไฟ โรงแรม เป็นต้น Information Counter จะอยู่ที่ Arrival Lobby ดังนั้นใครที่จะใช้บริการต้องซื้อตั๋วตรงนี้ก่อนนะครับ
กรณีที่นั่งจากสนามบินนาริตะ จะไม่มีระบบให้จองนะครับ แต่ตามสถานีรถไฟภายใน Terminal จะมีรอบรถออกอยู่บ่อยๆ เพราะฉะนั้นไม่ต้องห่วงว่าจะไม่ได้ขึ้นนะครับ ได้ขึ้นแน่นอน
สามารถตรวจสอบราคาและรอบเวลาเดินรถได้ที่ http://www.limousinebus.co.jp/en/hotelguide/index.html
Tourist information center
เมื่อเดินทางมาถึงประเทศญี่ปุ่นแล้ว สำหรับคนที่มาเที่ยวเองและต้องการสอบถามข้อมูลไม่ว่าจะเป็นแหล่งท่องเที่ยว การเดินทาง และข้อมูลอื่นๆเกี่ยวกับประเทศญี่ปุ่น รวมถึงเมื่อเราเกิดปัญหาหรือต้องการความช่วยเหลือฉุกเฉิน เราสามารถเข้าไปสอบถามได้ที่เคาท์เตอร์นี้เลยครับ ดูรายละเอียดได้ที่นี่
Shower Room
ใครที่เดินทางมาถึงประเทศญี่ปุ่นด้วยเที่ยวบินเช้า สามารถเข้าไปอาบน้ำชำระร่างกายให้สดชื่นได้เพราะที่นี่จะมีบริการห้องอาบน้ำให้ด้วยครับ สำหรับค่าบริการ 30 นาที 1030 เยน ราคาอาจจะแพงไปหน่อย แต่ภายในจะเตรียมผ้าขนหนู แชมพู สบู่ ไดร์เป่าผมไว้ให้เรียบร้อย ผมคิดว่าสะดวกมากๆสำหรับใครที่ต้องการใช้บริการ นอกจากนี้ยังมีห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า และห้องพักสำหรับนอนงีบพักผ่อนด้วยนะครับ สามารถดูรายละเอียดได้ที่นี่
บริการอื่นๆ
・Nursery : สำหรับคนที่ต้องการให้นมลูก หรือเปลี่ยนผ้าอ้อมสามารถใช้บริการห้องนี้ได้เลยครับ ภายในมีทั้ง Baby bed โต๊ะเปลี่ยนผ้าอ้อม เครื่องทำน้ำร้อนเอาไว้ให้ด้วยครับ
ดูรายละเอียดได้ที่ : http://www.narita-airport.jp/en/guide/service/list/svc_18.html
・Prayer Room : สามารถเข้าไปทำกิจทางศาสนาได้ที่นี่เลยครับ
ดูรายละเอียดได้ที่ : http://www.narita-irport.jp/en/guide/service/list/svc_79.html
・Changing Room : เข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้าได้อย่างสะดวกสบาย โดยห้องนี้จะมีอยู่ในห้องน้ำ
ดูรายละเอียดได้ที่:http://www.narita-airport.jp/en/guide/service/list/svc_52.html
・Coin Locker : นำของที่ไม่จำเป็น หรือถ้าเราไม่อยากถือของหนักๆ ก็สามารถเอาไปเก็บไว้ล็อคเกอร์หยอดเหรียญได้ครับ
ดูรายละเอียดได้ที่:http://www.narita-airport.jp/en/guide/service/list/svc_07.html
สามารถดาวโหลดแผนที่ภายในสนามบินนาริตะเวอร์ชั่นภาษาไทยได้ที่เว็ปไซต์ด้านล่างนี้ครับ
http://www.narita-airport.jp/en/travel/panf/access_book.html
นั่งรถไฟ SKYLINER เข้าเมือง (สถานี UENO)
การเดินทางจากสนามบินนาริตะเข้าไปยังตัวเมือง ในกรณีที่เราเดินทางโดยรถไฟ สามารถนั่งสาย NARITA ACCESS LINE (SKYLINER,ACCESS EXPRESS) นั่งสาย KEISEI MAIN LINE (Rapid Limited Express , Red Limited Express) นั่งสาย JR (NARITA EXPRESS)
รถไฟสาย Rapid Limited Express , Red Limited Express มีลักษณะขบวนรถคล้ายๆกับ BTS บ้านเรา คนใช้บริการเยอะ ใช้เดินทางไปทำงาน ไปโรงเรียน ค่อนข้างสะดวกและประหยัดเวลา
สำหรับใครที่ต้องการเดินทางแบบรวดเร็วขึ้นไปอีก ผมแนะนำให้ใช้บริการรถไฟ SKYLINER หรือ NARITA EXPRESS ภายในรถไฟมีห้องน้ำ เครื่องจำหน่ายเครื่องดื่ม โทรศัพท์ด้วยนะครับ
ใช้บริการรถไฟ SKYLINER
ถ้าเรานั่งรถไฟ SKYLINER จากสนามบินนาริตะเข้าไปยังโตเกียวจะใช้เวลาประมาณ 40 นาที สถานทีต้นทางคือสนามบินนาริตะ TERMINAL 1 ส่วนสถานีปลายทางคือสถานี KEISEI UENO ส่วนจุดที่รถไฟจะจอดจะมีอยู่แค่ 2 สถานีนะครับคือสถานี NARITA TERMINAL 2 และสถานี NIPPORI
เมื่อเราไปถึงโตเกียวแล้ว เราสามารถเปลี่ยนสายรถไฟจากสถานี Nippori เป็นสาย JR Yamanote Line หรืออาจจะนั่งสุดสายไปถึงสถานีปลายทางคือสถานี Keisei Ueno ในกรณีนี้ให้เราเดินออกจากสถานีมาก่อน แล้วเดินไปเปลี่ยนสายรถไฟที่สถานี Ueno ใช้เวลาเดินประมาณ 2-3 นาที ใครที่อยากไปเที่ยว Asakusa Ginza Shibuya ผมแนะนำว่าให้นั่งรถไฟจากสถานี Ueno โดยใช้รถไฟสาย Tokyo Metro Ginza Line จะสะดวกที่สุดครับ หรือสำหรับใครที่พอมีเวลาเหลือผมแนะนำให้ไปเดินเล่นที่สวนสาธารณะ Ueno ก่อนครับ ซึ่งเป็นสถานที่น่าสนใจไม่น้อย
การใช้บริการรถไฟ SKYLINER เราจะต้องซื้อตั๋วก่อนล่วงหน้า ซึ่งตั๋วทั้งหมดจะเป็นตั๋วแบบระบุที่นั่งครับ
*JR ย่อมาจาก Japan Railways
การขึ้นรถไฟ SKYLINER
จาก Arrivals Lobby ภายในสนามบินนาริตะ ให้เราใช้ลิฟต์ไปยังชั้นล่าง จากนั้นเดินอีกเล็กน้อยก็จะเจอ Counter ของรถไฟ SKYLINER ให้เราสอบถามข้อมูลการเดินทางและซื้อตั๋วรถไฟที่ตรงนั้น
สำหรับใครที่เดินทางมาโดยสายการบินไทย หรือสายการบิน ANA จะมาลงที่ Terminal 1 จาก Terminal 1 ถึงสถานี Ueno จะใช้เวลาเดินทางประมาณ 43 นาที ค่าตั๋ว 2470 เยน
ส่วนใครที่เดินทางมาโดยสายการบิน Japan Airline จะมาลงที่ Terminal 2 จาก Terminal 2 ถึงสถานี Ueno ใช้เวลาประมาณ 41 นาที ค่าโดยสารเท่ากันกับเดินทางจาก Terminal 1 ครับ
ในกรณีที่เดินทางมาถึงญี่ปุ่นแต่เช้าตรู่ อาจจะมีรถไฟให้บริการน้อยในช่วงเช้าๆ แต่อย่างไรก็ตามก็ยังมีรถไฟวิ่งสำหรับช่วงเช้าตรู่ซึ่งเรียกว่า Morning Line รถไฟสายนี้จะวิ่งแยกจากรถไฟ SKYLINER โดยจะเส้นทางเดินรถไฟสาย KEISEI MAIN LINE มุ่งหน้าไปยังสถานี UENO กับ Nippori ขบวนรถที่ใช้ก็ใช้ขบวนรถเดียวกันกับ SKYLINER เพียงแต่ว่าวิ่งเพียงแค่ 2 เวลาในช่วงเช้า และไม่ต้องจองที่นั่ง แต่จะมีการระบุหมายเลขขบวนรถ โดยทั่วไปราคาค่าตั๋วจะอยู่ที่ 420 เยน แต่รวมค่าบริการทั้งหมดแล้วจะอยู่ 1640 เยน
สามารถดูรายละเอียดเวลาและสถานีที่รถหยุดได้ที่ http://www.keisei.co.jp/keisei/tetudou/skyliner/us/index.html
ภายในรถไฟ SKYLINER
การนั่งรถไฟ SKYLINER ที่นั่งทั้งหมดจะเป็นการระบุที่นั่งมาก่อนล่วงหน้า ที่นั่งก็จะคล้ายๆกับเครื่องบิน พื้นที่ด้านหน้าค่อนข้างกว้าง สะดวกสบายมากๆ สามารถยืดขา ปรับเบาะเอนไปข้างหลังได้โดยที่ไม่รบกวนพื้นที่คนนั่งด้านหลัง อีกทั้งตรงที่พักเท้ายังมีปลั๊กไฟ สามารถชาร์จแบตหรือใช้คอมพิวเตอร์ได้ในระหว่างที่เรานั่งรถไฟ
บริการอื่นๆ
ภายในรถไฟจะมีพื้นที่ให้วางสัมภาระขนาดใหญ่อยู่ระหว่างพื้นที่เชื่อมต่อขบวนรถไฟ ตรงนี้ไม่ต้องกลัวของหายนะครับเพราะมีกล้องวงจรปิดติดเอาไว้ด้วย
สำหรับห้องน้ำภายในรถไฟ จะมีทั้ง Baby bed เก้าอี้สำหรับเด็กเล็ก ซึ่งใครที่มากับลูกๆก็จะสะดวกเลยทีเดียว
ดูรายละเอียดรถไฟ SKYLINER:About the skyliner
นั่งรถไฟ NARITA EXPRESS เข้าเมือง
รถไฟ NARITA EXPRESS จะพาคุณไปสู่จุดหมายปลายทางสถานีสำคัญๆต่างเช่นสถานี Tokyo , Shinagawa , Shibuya , Shinjuku , Ikebukuro , Yokohama , Omiya เป็นต้น
สำหรับใครที่เดินทางมาประเทศญี่ปุ่นพร้อมกับสัมภาระขนาดใหญ่ การที่จะต้องเปลี่ยนสายรถไฟอาจจะเป็นสิ่งที่ไม่ค่อยสะดวก เนื่องจากกระเป๋าเดินทางทั้งใหญ่และหนัก ดังนั้นผมแนะนำให้เดินทางโดยรถไฟ NARITA EXPRESS สำหรับคนที่พักอยู่ในโรงแรมย่านชินจุกุและย่านชิบุย่าครับ ซึ่งจะสะดวกมากๆครับ
車内には広々とした多目的トイレやダイヤル式の錠を備えた荷物置き場など、最新の設備が備え付けられています。
รถไฟ SKYLINER กับรถไฟ Narita Express
จากแผนที่การเดินรถไฟด้านล่างรถไฟ SKYLINER จะเป็นสีขาวส่วนรถไฟ NARITA EXPRESS จะเป็นสีแดง
นั่งรถไฟ SKYLINER จากสนามบินนาริตะโดยมีสถานีปลายทางคือสถานี KEISEI UENO และรถไฟสายนี้จะจอดเพียงสถานีเดียวคือสถานี Nippori ซึ่งเป็นสายรถไฟ JR YAMANOTE LINE ส่วนรถไฟ NARITA EXPRESS จะจอดหลายสถานีได้แก่สถานี Tokyo , Shibuya , Shinjuku , ikebukuro , Kichijoji, Mitaka, Kokubunji, Tachikawa, Hachioji, Takao, Shinagawa, Musashi Kosugi, Yokohama, Totsuka, Ofuna, Omiya เป็นต้น
ถ้านั่งรถไฟ Narita Express ถึงสถานี JR Tokyo จะใช้เวลาทั้งหมด 53 นาที ค่าโดยสาร 3020 เยน
ส่วนใครที่อยากตรวจสอบราคาของแต่ละสถานี้สามารถดูได้ที่นี่เลยครับ
WEBSITE:http://www.jreast.co.jp/e/nex/tickets.html
Narita Express:http://www.jreast.co.jp/e/nex/index.html
นั่งรถไฟ Access Express เข้าเมือง
รถไฟ Access Express จะวิ่งสายเดียวกันกับรถไฟ SKYLINER แต่จะแตกต่างกันตรงที่ รถไฟสายนี้จะไปเชื่อมต่อกับสาย Toei Asakusa Line และสาย Keikyu Main Line ดังนั้นหากใครต้องการเดินทางไปสนามบินฮาเนะดะก็จะสะดวกมากๆ เพราะไม่ต้องเปลี่ยนสายรถไฟ สามารถนั่งรถไฟต่อเดียวไปถึงสนามบินฮาเนะดะได้เลย
นอกจากนี้ ชื่อรถไฟสายนี้จะมีคำว่า Express อยู่ด้วย แต่ว่าเวลาใช้บริการเราไม่จำเป็นต้องออกตั๋วแบบ Ltd. Express ใช้เพียงแค่ตั๋ว Fare Ticket ก็พอ ค่าโดยสารจากสนามบินนาริตะถึงสถานีอุเอะโนะ ราคา 1240 เยน ซึ่งถูกกว่านั่งรถไฟ SKYLINER ครึ่งหนึ่งครับ
เพียงแต่ว่าที่นั่งรถไฟสายนี้จะเป็นที่นั่งยาวติดกัน (คล้ายๆกับรถไฟ BTS บ้านเรา) และพื้นที่สำหรับวางสัมภาระก็มีไม่มากนัก ดังนั้นอาจจะไม่ค่อยสะดวกเท่ารถไฟ SKYLINER นอกจากนี้คนทำงาน นักเรียน ก็ใช้รถไฟสายนี้ค่อนข้างเยอะ ถ้าคุณขึ้นรถไฟสายนี้ในช่วงเวลาเร่งด่วนคนก็จะแน่นเต็มรถไฟมากๆ
ระยะเวลาที่ใช้ในการเดินทางจากสนามบินนาริตะถึงสถานี JR UENO ประมาณ 59 นาที ถ้าหากไปสถานี Shinbashi สาย Toei Asakusa Line ใช้เวลา 64 นาที และถ้าไปสถานี Nihon จะใช้เวลา 59 นาที
นั่งรถเมล์เข้าเมือง
สำหรับใครที่ต้องการนั่งรถเมล์จากสนามบินนาริตะเข้าเมือง สามารถเดินทางได้ดังนี้
1)รถลีมูซีนของสนามบิน
คุณสามารถนั่งรถลีมูซีนจากสนามบินนาริตะไปยังสถานีรถไฟหลักๆในโตเกียว หรือโรงแรม (แต่ไม่ทุกโรงแรมนะครับ) โดยค่าตั๋วจะอยู่ที่ 3100 เยนต่อ 1 คน ใครที่นั่งจากสนามบินนาริตะไม่ต้องจองล่วงหน้านะครับ ส่วนใครที่พักโรงแรมผมแนะนำให้นั่งรถลีมูซีนไปเลยนะครับ เพราะเราไม่ต้องถือของหนักๆเดินเปลี่ยนสายรถไฟครับ ต่อเดียวถึงหน้าโรงแรมได้เลย นอกจากน้มีห้องน้ำภายในรถด้วยนะครับ
สำหรับใครที่ต้องการตรวจสอบราคา เวลาเดินรถ และจุดที่รถจอดว่าจอดที่โรงแรมไหนบ้าง สามารถดูรายละเอียดได้ตามเว็ปไซต์นี้เลยครับ http://www.limousinebus.co.jp/en/hotelguide/index.html
ใครที่ต้องการใช้บริการให้ไปเช็ครอบรถออกและซื้อตั๋วได้ที่เคาท์เตอร์ขายตั๋วรถลีมูซีนที่ Arrivals Lobby ครับ
Airport Limousine website:http://www.limousinebus.co.jp/en/
2)Shuttle BUS
ถ้านั่งรถเมล์ Keisei Bus จากสนามบินนาริตะ (Terminal 1 ,2 ,3) ถึงสถานี JR โตเกียว ค่าตั๋ว 1 เที่ยวจะอยู่ที่ 1000 เยน สามารถดูรายละเอียดได้ที่
http://www.keiseibus.co.jp/en/kousoku/nrt16.html
ใครที่นั่งรถเมล์ก็อาจจะเจอรถติดบ้าง ซึ่งเวลาจะไม่แน่นอนเหมือนรถไฟ แต่สำหรับใครที่พอมีเวลาเหลือไม่เร่งรีบ ผมอยากให้ลองนั่งดูนะครับ ได้สัมผัสบรรยากาศไปอีกแบบ
อื่นๆ
การเดินทางวิธีสุดท้าย สำหรับใครที่รวยมีเงินและอยากลองเปลี่ยนบรรยากาศ สามารถนั่งแท็กซี่หรือเฮลิคอปเตอร์เข้าเมืองได้นะครับ
ใครที่นั่งแท็กซี่ค่าบริการก็จะแตกต่างกันออกไปตามระยะทาง จุดหมายปลายทาง และสภาพการจราจรครับ แต่อย่างไรก็ดีผมแนะนำว่าถ้าใครอยากจะนั่งจริงๆควรเตรียมเงินเอาไว้ประมาณ 30000 เยนดีกว่า รวมค่าทางด่วนแล้วนะครับ คิดเป็นเงินไทยตกอยู่ประมาณ 10,000 บาทครับ
นอกจากนี้ยังมีรถแท็กซี่ที่มีการกำหนดราคาเวลาเรานั่งไปในแต่ละพื้นที่เอาไว้แล้ว แต่เราต้องสำรองล่วงหน้านะครับ
ในเว็ปไซต์ด้านล่างนี้จะแสดงราคาในแต่ละเขตพื้นที่เอาไว้แล้ว ซึ่งจะได้ราคาถูกกว่าทั่วไป สามารถดูรายละเอียดได้ที่นี่เลยครับ
http://www.nihon-kotsu.co.jp/taxi/use/narita/
ใครที่จะเดินทางจากสนามบินนาริตะเข้าไปยังโตเกียวจะต้องจองรถล่วงหน้าอย่างน้อย 3 ชั่วโมง
นอกจากนี้ยังมีบริการอื่นๆอีกนะครับ สามารถดูรายละเอียดได้ที่ http://www.rakurakutaxi.jp/customer/static/narita01.html
(เว็ปไซต์จะเป็นภาษาญี่ปุ่น)
ในกรณีที่นั่งเฮลิคอปเตอร์ จากสนามบินนาริตะถึงจุดที่เฮลิคปอเตอร์ลงคือเขต Akasaka , Roppongi จะใช้เวลาประมาณ 20 นาที คุณสามารถเพลิดเพลินกับการดูท้องฟ้าที่กว้างใหญ่เห็นวิวทั่วทั้งโตเกียว อีกทั้งยังมีความเป็นส่วนตัวและปลอดภัย สำหรับใครที่มีตังเหลือและอยากเปิดประสบการณ์ใหม่ๆผมแนะนำเลยครับ ราคาก็อยู่ที่ 270000 เยน ต่อ 1 เที่ยวนะครับ สามารถนั่งได้ 5 คน คิดเป็นเงินไทยก็อยู่ที่ 90,000 บาทครับ
สามารถดูรายละเอียดได้ที่ http://www.mcas.co.jp/
kkk